ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ลุ้นเดินตามรอยทักษิณกลับไทย

จากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีกล่าวหาว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต กรณีการจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาทนั้น

ซึ่งคดีดังกล่าวสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นคดีสุดท้ายแล้ว เพราะเรื่องอื่นๆ ที่เคยถูกยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  มีรายงานว่าถูกตีตกไปทั้งหมดแล้ว เพราะไม่มีมูล

ดังนั้นคดีนี้จึงเป็นคดีสุดท้าย ซึ่งท้ายที่สุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้อง ซึ่งหมายความว่า คดีเดียวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกดำเนินคดี คือ คดีจำนำข้าว ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี

ส่วนคดีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่เพิ่งยกคำฟ้องไป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามรายงานระบุว่า อยู่ในชั้นที่สามารถยื่นอุทธรณ์สู้คดีได้

ขณะที่รองศาสตราจารย์ ธนพร ศรียากูล นักวิชาการ ในฐานะที่เข้าไปนั่งฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี  ระบุว่าผลของการพิพากษาในวันนี้จะส่งผลดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะในคดีที่ถูกดำเนินคดีอยู่คดีรับจำนำข้าวโทษ 5 ปี  และเป็นสัญญาณดีกับกองเชียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 

“เชื่อว่าในปีนี้ จะได้เห็นตัวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ในประเทศไทย  โดยอาจใช้โมเดลของนายทักษิณ ชินวัตร เข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม และดำเนินตามขั้นตอนต่อไป”

อย่างไรก็ตามสำหรับกระบวนการหลังจากนี้ ต้องจับตา ป.ป.ช. ที่เป็นโจทก์จะยื่นอุทธรณ์อีกหรือไม่ ภายในกรอบเวลา 30 วัน ซึ่งหาก ป.ป.ช.อุทธรณ์คดี ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์ ที่ต้องมีการสรรหาองค์คณะใหม่ขึ้นมาพิจารณาคดีที่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง